เคมีสมุนไพร > CINNAMOMUM CAMPHORA

การบูร (Camphor) แต่เดิมถูกเรียกว่าการบูรขาว White Camphor สกัดได้จากส่วนของกิ่งก้านและไม้ของต้น Cinnamomum camphora ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบประเทศจีน และญี่ปุ่น เราสามารถพบการบูรได้อีกสองสีคือ น้ำตาลและเหลือง ซึ่งมีพิษเนื่องจากประกอบด้วยสาร Safrole ในปริมาณสูง  ซึ่งควรหลีกเลี่ยงแม้การใช้งานภายนอกก็ตาม   เราจะพบการบูรสีขาวที่มักใช้เป็นส่วนผสมในครีม ขี้ผึ้ง และโลชั่น สามารถใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการปวด ระคายเคือง และคัน ทำยาทาถูนวดแก้ปวดตามข้อ การบูรยังใช้เพื่อบรรเทาอาการคัดแน่นหน้าอกและอาการอักเสบ เป็นยาระงับเชื้ออย่างอ่อน ยากระตุ้นหัวใจ ขับลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ   

การบูรมีการใช้เฉพาะที่ที่หลากหลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และต้านการอักเสบ สามารถใช้รักษาสภาพผิว ปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินหายใจ และบรรเทาอาการปวด ผลิตภัณฑ์การบูรส่วนใหญ่มาในรูปแบบของครีม ขี้ผึ้ง หรือบาล์มที่สามารถทาลงบนผิวได้ ครีมป้องกันอาการคันและโกนหนวดบางชนิดมีการบูร ผลิตภัณฑ์เสริมความงามบางชนิด เช่น โฟมล้างหน้า ยาทาเล็บ และ ChapStick มีส่วนผสมของการบูร นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมทั่วไปในสารไล่แมลง  ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักซึ่งมีการบูร ได้แก่ Tiger Balm, Vicks VapoRub, Bengay ,Icy Hot , Biofreeze 

การบูรเป็นยารักษาโรคอย่างหนึ่งของตำรับยาแห่งศตวรรษที่ 19 ตามประวัติศาสตร์ มีการกล่าวอ้างว่า Marco Polo กล่าวถึงการบูรในศตวรรษที่ 13 และ Camoens ในปี ค.ศ. 1571 เรียกการบูรว่า "ยาหม่องรักษาโรค"  การบูรได้รับการยกย่องอย่างสูงจากชาวจีน เพื่อวัตถุประสงค์ในการดองยาและเพื่อให้กลิ่นหอมในสบู่  

สารสำคัญที่พบ :  D-camphor , 1,8-cineole), and α-terpineol , while D-camphor , linalool 

ปริมาณและการใช้งาน

การบูรโดยทั่วไปจะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่เมื่อใช้อย่างถูกต้อง โลชั่นหรือครีมที่มีการบูรปริมาณเล็กน้อยสามารถทาลงบนผิวของคุณได้ ห้ามใช้การบูรที่ไม่เจือปนหรือผลิตภัณฑ์ที่มีการบูรมากกว่า 11 เปอร์เซ็นต์  ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์การบูรกับผิวที่แตกหรือได้รับบาดเจ็บเพราะร่างกายสามารถดูดซับระดับที่เป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอและหายใจมีเสียงหวีดเมื่อสูดดม หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตาของคุณ ห้ามใช้สารละลายการบูรมากกว่า 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำควอร์ตเมื่อใช้ผ่านการสูดดมไอน้ำ อย่านำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มีการบูร เช่น Vicks VapoRub หรือ Bengay ในไมโครเวฟ เนื่องจากอาจเกิดการระเบิดได้   

[ใช้กับผิว] 

โลชั่นและครีมที่มีการบูรสามารถใช้บรรเทาอาการระคายเคืองและอาการคันของผิวหนังได้ และอาจช่วยปรับปรุงลักษณะโดยรวมของผิวได้ มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นประโยชน์ในการรักษาโรคติดเชื้อ จากการศึกษาในสัตว์ทดลองที่เชื่อถือได้ในปี พ.ศ. 2558 พบว่าการบูรมีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลและริ้วรอยที่เกิดจากแสงอัลตราไวโอเลต ทำให้เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพในเครื่องสำอางต่อต้านวัย อาจเป็นเพราะความสามารถในการเพิ่มอีลาสตินและการผลิตคอลลาเจน ใช้ครีมการบูรในบริเวณที่คุณต้องการรักษาอย่างน้อยวันละครั้ง  

[ระงับปวด] 

การบูรที่ผิวหนังช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ การศึกษาแหล่งที่เชื่อถือได้ในปี 2015 พบว่าสเปรย์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น การบูร เมนทอล และน้ำมันหอมระเหยจากกานพลูและยูคาลิปตัสมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง ฉีดพ่นบริเวณข้อต่อ ไหล่ และหลังส่วนล่างเป็นเวลา 14 วัน คุณอาจรู้สึกเสียวซ่า ร้อนหรือเย็นลงเมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์จากการบูร ใช้สเปรย์การบูรหรือครีมทาบริเวณที่เป็นวันละหลายๆ ครั้ง 

[รักษาแผลไฟไหม้] 

ยาหม่องการบูรและครีมใช้รักษาแผลไฟไหม้ได้ จากการศึกษาในสัตว์ทดลองปี 2018 พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของการบูร น้ำมันงา และน้ำผึ้งช่วยลดเวลาในการรักษาบาดแผลไฟไหม้ระดับที่สอง และพบว่ามีประโยชน์มากกว่าการใช้วาสลีน ให้ใช้ครีมทาบริเวณที่ได้รับผลกระทบวันละครั้ง  

[รักษาโรคข้ออักเสบ] 

ผลิตภัณฑ์การบูร เช่น Icy Hot และ Biofreeze อาจมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวด อักเสบ และบวมจากโรคข้ออักเสบ ความรู้สึกร้อนหรือเย็นที่เกิดขึ้นหลังจากทาครีมเหล่านี้อาจทำให้คุณเสียสมาธิจากความเจ็บปวด การบูรยังแสดงให้เห็นด้วยว่าแหล่งที่เชื่อถือได้มีผลต้านการอักเสบในสัตว์จำลองที่มีประโยชน์ในการรักษาโรคข้ออักเสบ วิธีใช้ ให้ทาครีมการบูรบริเวณที่ได้รับผลกระทบวันละหลายๆ ครั้ง  

[รักษาเชื้อราที่เล็บเท้า] 

คุณสมบัติต้านเชื้อราของการบูรทำให้มีประโยชน์ในการรักษาเชื้อราที่เล็บเท้า การวิจัยในปี 2554 พบว่าการใช้ Vicks VapoRub ซึ่งมีการบูร เมนทอล และน้ำมันยูคาลิปตัส มีประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อราที่เล็บเท้า ในการศึกษา 15 คนจาก 18 คนแสดงผลในเชิงบวกหลังจากใช้ครีมนี้เป็นเวลา 48 สัปดาห์ หากต้องการใช้ ให้ทา Vicks VapoRub กับเล็บเท้าที่ได้รับผลกระทบ 2-3 ครั้งต่อวัน  

[บรรเทาอาการคัดจมูกและไอ] 

น้ำมันการบูรทำหน้าที่เป็นยาระงับความรู้สึกและระงับอาการไอ จากการศึกษาในปี 2010 การถูด้วยไอระเหยมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรเทาอาการไอตอนกลางคืน ความแออัด และการนอนหลับยากในเด็กที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน วิธีใช้ ใส่ Vicks VapoRub 2 ช้อนชาลงในชามน้ำร้อน ถือหัวของคุณเหนือชามและคลุมศีรษะด้วยผ้าขนหนูขณะที่คุณหายใจเอาไอระเหยเข้าไป คุณยังสามารถทาบาล์มกับหน้าอกหรือเท้าแล้วคลุมด้วยถุงเท้า หลีกเลี่ยงการใส่ในหรือรอบจมูกของคุณ 

[ยาแก้กระสับกระส่าย] 

ผลิตภัณฑ์การบูรยังสามารถใช้เป็นยาสมานกล้ามเนื้อได้ อาจช่วยบรรเทาอาการตะคริวของกล้ามเนื้อ อาการกระตุก และอาการตึงได้ จากการศึกษาในปี 2547 พบว่าการบูรมีคุณสมบัติต้านอาการกระสับกระส่ายและคลายตัว วิธีใช้ ให้นวดถูกล้ามเนื้อ เช่น Bengay ลงบนกล้ามเนื้อที่มีอาการเจ็บ 2-3 ครั้งต่อวัน  

[การใช้งานอื่นๆ] 

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีข้อ จำกัด สำหรับการใช้การบูรโดยอ้างว่าบางส่วนและหลักฐานส่วนใหญ่มีน้อย น้ำมันการบูรอาจใช้รักษา: ผมร่วง สิว หูด ปวดหู แผลเย็น โรคริดสีดวงทวาร อาการของโรคหัวใจ เลือดไหลเวียนไม่ดี ท้องอืด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก  

// ใช้กับเครื่องกระจายกลิ่นดิฟฟิวเซอร์  

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าน้ำมันหอมระเหยมีความเข้มข้นสูงและควรเจือจางอย่างเหมาะสมก่อนใช้เฉพาะที่ ใช้เพียวไม่กี่หยดในการเจือจางในน้ำมันตัวพาหนึ่งออนซ์ 

// ใช้ทาเฉพาะที่หรือนวดผิว  

การใช้เฉพาะที่ของน้ำมันหอมระเหยควรเจือจางด้วยน้ำมันตัวพา จึงจะสามารถให้ประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญโดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย แต่พึงระวังว่าน้ำมันหอมระเหยอาจเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงได้ พิจารณาเด็ก สัตว์เลี้ยง และสตรีมีครรภ์ก่อนใช้อโรมาเธอราพีเสมอ  

// ใช้ภายในหรือรับประทาน 

น้ำมันหอมระเหยไม่ได้มีไว้สำหรับรับประทาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรับประทาน ได้แก่ อาการเสียดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน ดังนั้นเลือกสารสกัดและได้รับคำแนะนำจากแพทย์และผู้เชียวชาญหากคุณต้องการใส่น้ำมันลงในอาหาร 

ข้อมูลด้านความปลอดภัย

* ไม่ควรรับประทานการบูร เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ สัญญาณของความเป็นพิษจากการบูรจะปรากฏขึ้นภายใน 5-90 นาทีหลังกลืน อาการต่างๆ ได้แก่ การแสบร้อนในปากและลำคอ คลื่นไส้ และอาเจียน 

* การใช้การบูรภายในและการใช้เฉพาะที่ในปริมาณมาก อาจจะทำลายตับ อย่าใช้การบูรหากคุณมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อตับของคุณ คุณไม่ควรรับประทานการบูรหากคุณเป็นโรคหอบหืดหรือโรคลมบ้าหมู 

* อย่าใช้ผลิตภัณฑ์การบูรหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์จากการบูรเลย มีข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ว่าการบูรที่กลืนเข้าไปเป็นอันตรายต่อเด็กวัยหัดเดินแม้ในปริมาณน้อย ยังทำให้เกิดอาการชักได้ 

* สำหรับการใช้ภายนอกควรนำมาทำให้เจือจางก่อนการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากในน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% มีความเข้มข้นสูง หากเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งก่อนไปพบแพทย์ ถ้าหากถูกผิวหนังให้รีบล้างออกด้วยน้ำสบู่หากเกิดอาการแพ้ 

* คุณสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยได้อย่างปลอดภัยโดยการสูดดม โดยการหยด 3-4 หยดลงในดิฟฟิวเซอร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก 

* สำหรับการใช้เฉพาะที่ ผสมให้เข้ากันกับน้ำมันตัวพาที่คุณเลือกก่อนการทา (ทดสอบส่วนผสมบนผิวอื่นๆ ก่อนเช่น ปลายแขน ก่อนทาในบริเวณที่บอบบางเช่นใบหน้า หากหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วคุณพบว่ามีรอยแดงหรือระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการใช้)  

* เราไม่แนะนำการรับประทานน้ำมันหอมระเหย 100% เนื่องจากมีความเข้มข้นสูงซึ่งอาจเกิดพิษ ดังนั้นจึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์และผู้เชียวชาญอย่างใกล้ชิด 

เอกสารอ้างอิง

1. https://www.healthline.com/health/what-is-camphor

2. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5133837/

3. http://www.rspg.or.th/plants_data/plantdat/lauracea/ccamph_1.htm

4. https://www.sciencedirect.com/topics/medicine-and-dentistry/camphor