เคมีสมุนไพร > EACALYPTUS RADIATA

ยูคาลิปตัสเรเดียต้า หรือ สะระแหน่ใบแคบ (Narrow-Leaved Peppermint) เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลียตะวันออกเฉียงใต้ชอบอากาศเย็นและชื้น  น้ำมันหอมระเหยของยูคาลิปตัสช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไข้หวัด และไอ ด้วยประโยชน์ในการขับเสมหะและบรรเทาอาการระคายเคือง   

Eucalyptus radiata เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยเพื่อใช้ในการดูแลเด็ก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Eucalyptus smithii หรือใบอ่อน Eucalyptus globulus  ซึ่งบางครั้งจะกล่าวว่า E. Radiata นั้น “อ่อนโยน” กว่า E. globulus  มีกลิ่นที่นุ่มนวลกว่า นอกจากนี้ซึมเข้าสู่ชั้นลึกของผิวหนังได้ดีกว่า ลดอาการอักเสบของเอ็น เคล็ดขัดยอก เอ็นฉีกขาด บาดแผล มีความแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเป็นยาระบาย ทำงานเป็นเครื่องกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันป้องกัน มีประสิทธิภาพในการต้านจุลชีพมีกลิ่นหอมคล้ายมะนาวและมีฤทธิ์ในวงกว้าง มีฤทธิ์ต้านไวรัส เสมหะและต้านการอักเสบ เป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดี ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่หมดแรงและเป็นหวัดบ่อยๆ เลือกน้ำมันนี้ในกรณีเช่น: ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ เสียงแหบ คอแหบ น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก คัดจมูก ไอแห้งเล็กน้อยต่อมทอนซิลบวม โรคไวรัสทางเดินหายใจส่วนบน (เรื้อรังและเฉียบพลัน)  

คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของน้ำมัน E. globulus โดดเด่นกว่าน้ำมัน E. radiata  แต่ในส่วนน้ำมัน E. radiata จะมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เด่นชัดกว่าน้ำมัน E. globulus  

จากงานวิจัยที่ศึกษาน้ำมันยูคาลิปตัสสามารถทำหน้าที่เพิ่มศักยภาพของยาปฏิชีวนะที่ต่อต้าน A. baumannii โดยพิจารณาจากผลทางการทำงานร่วมกันที่ระหว่างน้ำมันเหล่านี้กับยาปฏิชีวนะทั่วไป น้ำมันหอมระเหยจากยูคาลิปตัสทั้งสองชนิดที่ศึกษาสามารถยับยั้งการผลิตเม็ดสีไวโอเลซินที่ควบคุมโดยการตรวจจับควอรัมในแบคทีเรีย 

สารสำคัญที่พบ :   limonene, 1,8-cineole , α-pinene, p-cymene 

ปริมาณและการใช้งาน

* สำหรับบรรเทาอาการไอ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่น้ำมันยูคาลิปตัสถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการไอ ทุกวันนี้ ยาแก้ไอที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์บางชนิดมีน้ำมันยูคาลิปตัสเป็นส่วนประกอบสำคัญชนิดหนึ่ง ตัวอย่างเช่น Vicks VapoRub มีน้ำมันยูคาลิปตัสประมาณ 1.2 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ในการระงับอาการไอ คุณสามารถเจือจางน้ำหอมระเหย 1-3% แล้วนำไปถูนวดยอดนิยมที่หน้าอกและลำคอเพื่อบรรเทาอาการไอจากไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่  

*ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ โรคโซนัสและหอบหืด น้ำมันยูคาลิปตัสไม่เพียงแต่สามารถระงับอาการไอได้ แต่ยังช่วยให้คุณหน้าอกของคุณโล่งขึ้นได้อีกด้วย การสูดดมไอระเหยที่ทำด้วยน้ำมันหอมระเหยจะทำให้เสมหะสลายตัว การใช้ถูที่มีน้ำมันยูคาลิปตัสจะให้ผลเช่นเดียวกัน   

* รักษาแผลติดเชื้อ  ชาวพื้นเมืองออสเตรเลียใช้ใบยูคาลิปตัสรักษาบาดแผลและป้องกันการติดเชื้อ ทุกวันนี้ น้ำมันที่เจือจางแล้วยังสามารถใช้กับผิวหนังรักษาการอักเสบและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา คุณสามารถซื้อครีมสมุนไพรหรือขี้ผึ้งที่มีน้ำมันยูคาลิปตัสได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจใช้กับแผลไหม้เล็กน้อยหรือการบาดเจ็บอื่นๆ ที่สามารถรักษาได้เองที่บ้าน  

* สำหรับบรรเทาอาการปวดข้อ การวิจัยชี้ให้เห็นว่าน้ำมันยูคาลิปตัสช่วยลดอาการปวดข้อ อันที่จริง ครีมและขี้ผึ้งที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นที่นิยมจำนวนมากใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดจากสภาวะต่างๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อมและโรคข้อรูมาตอยด์ก็มีส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยนี้ น้ำมันยูคาลิปตัสช่วยลดความเจ็บปวดและการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสภาวะต่างๆ นอกจากนี้ยังอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังหรือผู้ที่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ   

// ใช้กับเครื่องกระจายกลิ่นดิฟฟิวเซอร์   สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าน้ำมันหอมระเหยจากมินต์มีความเข้มข้นสูงและควรเจือจางอย่างเหมาะสมก่อนใช้เฉพาะที่ ต้องใช้เพียงไม่กี่หยดในการเจือจางในน้ำมันตัวพาหนึ่งออนซ์ 

// ใช้ทาเฉพาะที่หรือนวดผิว  น้ำมันหอมระเหยหรือการใช้เฉพาะที่ของน้ำมันหอมระเหยมินต์เจือจางด้วยน้ำตัวพาสามารถให้ประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญโดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย แต่พึงระวังว่าน้ำมันหอมระเหยจากมินต์อาจเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงได้ พิจารณาเด็ก สัตว์เลี้ยง และสตรีมีครรภ์ก่อนใช้อโรมาเธอราพีเสมอ  

// ใช้ภายในหรือรับประทาน น้ำมันหอมระเหยไม่ได้มีไว้สำหรับรับประทาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรับประทานสารสกัดมินต์ ได้แก่ อาการเสียดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน ดังนั้นเลือกสารสกัดและได้รับคำแนะนำจากแพทย์และผู้เชียวชาญหากคุณต้องการใส่น้ำมันมินต์ลงในอาหาร 

ข้อมูลด้านความปลอดภัย

* ผลข้างเคียงของการใช้น้ำมันมินต์กับผิวหนังอาจรวมถึงผื่นที่ผิวหนังและการระคายเคือง ไม่ควรใช้น้ำมันมินต์กับใบหน้าของทารกหรือเด็กเล็ก 

* การใช้ผิวที่บ่อยเกินไปอาจส่งผลต่ออัตราการแพ้ที่เห็นได้ มีการผลการอธิบายปฏิกิริยาผิวหนังอักเสบจากการแพ้จำนวนมากต่อน้ำมันมิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในช่องปาก แม้ว่าจะขึ้นชื่อในด้านคุณสมบัติมากมาย แต่ควรรู้จักบทบาทของน้ำมันดังกล่าวในการเป็นสารไวแสง เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคผิวหนังและสภาวะในช่องปาก และเพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างเหมาะสม 

* สำหรับการใช้ภายนอกควรนำมาทำให้เจือจางก่อนการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากในน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% มีความเข้มข้นสูง หากเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งก่อนไปพบแพทย์ ถ้าหากถูกผิวหนังให้รีบล้างออกด้วยน้ำสบู่หากเกิดอาการแพ้ 

* คุณสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยได้อย่างปลอดภัยโดยการสูดดม โดยการหยด 3-4 หยดลงในดิฟฟิวเซอร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก 

* สำหรับการใช้เฉพาะที่ ผสมให้เข้ากันกับน้ำมันตัวพาที่คุณเลือกก่อนการทา (ทดสอบส่วนผสมบนผิวอื่นๆ ก่อนเช่น ปลายแขน ก่อนทาในบริเวณที่บอบบางเช่นใบหน้า หากหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วคุณพบว่ามีรอยแดงหรือระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการใช้)  

* เราไม่แนะนำการรับประทานน้ำมันหอมระเหย 100% เนื่องจากมีความเข้มข้นสูงซึ่งอาจเกิดพิษ ดังนั้นจึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์และผู้เชียวชาญอย่างใกล้ชิด 

เอกสารอ้างอิง

1. https://www.experience-essential-oils.com/uses-of-eucalyptus.html

2. https://tisserandinstitute.org/learn-more/types-of-eucalyptus-uses-and-safety/

3. https://www.sciencedirect.com/topics/pharmacology-toxicology-and-pharmaceutical-science/eucalyptus

4. https://healingscents.net/blogs/learn/compare-4-eucalyptus-essential-oils

5. https://en.wikipedia.org/wiki/Eucalyptus_radiata

6. https://www.healthline.com/health/9-ways-eucalyptus-oil-can-help 

7. https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0926669015304982