Sani Lab (Thailand)
  • หน้าหลัก
  • สินค้า|ผลิตภัณฑ์
  • เคมีสมุนไพร
    • iEssence-น้ำมันหอมระเหย
    • iBlend-น้ำมันและพฤกษาผสม
    • .........................
    • iAlco-แอลกอฮอลก์สเปรย์
  • ติดต่อเรา
  • Dham-D
    • Dham-D-ทุกเดือน
    • เพื่อสังคมชีวิตสิงแวดล้อม
  • เพิ่มเติม
    • หน้าหลัก
    • สินค้า|ผลิตภัณฑ์
    • เคมีสมุนไพร
      • iEssence-น้ำมันหอมระเหย
      • iBlend-น้ำมันและพฤกษาผสม
      • .........................
      • iAlco-แอลกอฮอลก์สเปรย์
    • ติดต่อเรา
    • Dham-D
      • Dham-D-ทุกเดือน
      • เพื่อสังคมชีวิตสิงแวดล้อม
Sani Lab (Thailand)
  • หน้าหลัก
  • สินค้า|ผลิตภัณฑ์
  • เคมีสมุนไพร
    • iEssence-น้ำมันหอมระเหย
    • iBlend-น้ำมันและพฤกษาผสม
    • .........................
    • iAlco-แอลกอฮอลก์สเปรย์
  • ติดต่อเรา
  • Dham-D
    • Dham-D-ทุกเดือน
    • เพื่อสังคมชีวิตสิงแวดล้อม
Sani - น้ำมันสกัดจากต้น โกฐจฬาลัมพา

เคมีสมุนไพร > WORMWOOD PLANT

Artemisia plant

สกุลโกฐจุฬาลัมพา มีชื่อเรียกสามัญว่า Wormwood หรือทางวิทยาศาสตร์จะเรียกว่า Artemisia เป็นพืชสกุลขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลาย ระหว่าง 200 ถึง 400 ชนิด ชนิดที่พบบ่อยจัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (Asteraceae) ประกอบด้วยไม้ล้มลุกและไม้พุ่มที่มีความทนทาน ซึ่งมีคุณค่าทางเคมีในน้ำมันหอมระเหย เติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่น บนพื้นที่แห้งหรือกึ่งแห้งแล้ง พืชในสกุลโกฐจุฬาลัมพาส่วนใหญ่มีกลิ่นหอมแรงและรสขม จากสารสำคัญที่พบมากคือ Terpenoids และ Lactones Sesquiterpene ซึ่งช่วยไล่สัตว์กินพืชมีดอกขนาดเล็กเป็นช่อกระจุกขนาดเล็ก ผสมเกสรด้วยลม โกฐจุฬาลัมพาเป็นพืชอาหารที่ดีของหนอนผีเสื้อหลายชนิด  



โกฐจุฬาลัมพาชนิดที่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia annua L.. มีชื่อสามัญว่า sweet wormwood  จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวันเช่นเดียวกัน หรืออาจเรียกได้หลายชื่อ เช่น Sweet annie, Sweet sagewort, Sweet wormwood, Wormweed และมีชื่อเรียกในประเทศไทยว่า โกฐจุฬา, โกฐจุฬาลัมพาจีน (ไทย), ชิงเฮา ชิงฮาว (จีน) และเป็นสมุนไพรประจำปีที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ซึ่งมักพบในภาคเหนือของจังหวัด Chahar และ Suiyan อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบได้ในหลากหลายประเทศ เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่ถูกใช้เป็นยารักษาไข้มานานกว่า 2,000 ปี และรักษาโรคมาลาเรียมานานกว่า 1,000 ปีในประเทศจีน ชิงห่าว คำภาษาจีนสำหรับพืช หมายถึง "สมุนไพรสีเขียว" เภสัชตำรับแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนฉบับปัจจุบันจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการใช้ A. annua ในการรักษาไข้และมาลาเรีย สมุนไพรปรุงด้วยน้ำร้อนตามหลักแพทย์แผนจีนอย่างเป็นทางการ

  

โกฐจุฬาลัมพาชนิดที่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia Pallens W. มีชื่อสามัญว่า หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ Davana ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาสันสฤต เป็นสมุนไพรหอมที่พบได้มากในแหล่งอาศัยที่ชื้นในที่ราบทั่วประเทศอินเดีย Artemisia pallens พบได้มากในเนินเขา Nilgiri  และดอกไม้ Davana ได้รับการยกย่องอย่างสูงในการใช้สำหรับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในอินเดีย เป็นน้ำมันหอมที่หายากและมีราคาสูง ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความแปลกแตกต่างตรงที่กลิ่นมักจะแตกต่างกันไปในแต่ละผิวบุคคล นอกจากนั้นยังมีประวัติว่าถูกใช้โดยชนเผ่าเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการแพทย์พื้นบ้านของอินเดียเพื่อรักษาโรคเบาหวาน ใบและดอกให้น้ำมันหอมระเหยและมีสารสำคัญหลายชนิด ให้ผลผลิตน้ำมันหอมระเหยและบางชนิดใช้เป็นอาหารสัตว์ บางชนิดเป็นแหล่งของสารแซนโทนินที่เป็นสารเคมีกำจัดแมลง


โกฐจุฬาลัมพา ชนิดที่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia vulgaris L.  มีชื่อสามัญว่า Common wormwood หรืออาจถูกเรียกชื่อว่า Mugwort  มีถิ่นกำเนิดในยุโรป เอเชีย แอฟริกาเหนือ และอลาสก้า ในช่วงเขตร้อนจะเติบโตได้ดี  เป็นพืชที่พบได้ทั่วไปในดินที่มีไนโตรเจน ในเวียดนาม มันถูกใช้เป็นหนึ่งในสารแต่งกลิ่นรสและรสขมของ gruit ales ซึ่งเป็นเครื่องดื่มธัญพืช ถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม -ในประเทศจีน หน่ออ่อนของ A. vulgaris หรือที่รู้จักในชื่อ luhao (จีน) เป็นผักตามฤดูกาลที่มักใช้ในการผัด -ในประเทศเนปาล มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า titepati (tite แปลว่าขม, pati แปลว่า ใบไม้) และใช้เป็นเครื่องหอม เครื่องบูชา และยังเป็นพืชสมุนไพร  ใบแห้งมักจะรมควันเป็นชาหรือใบยาสูบ 

(บางตำรากล่าวว่า Artemisia vulgaris L. เป็นพันธุ์ที่พบได้ในป่าดอกมีสีขาว ส่วนพันธ์ที่พบได้การเพาะปลูก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia argyi Levl. et Vant มีดอกสีแดง ซึ่งทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดงมีสรรพคุณทางยาที่เหมือนกันและใช้แทนกันได้)



*ชนิดที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย ได้แก่ โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia annua L. หรือ โกฐจุฬาลัมพาจีน- ชิงเฮา), โกฐจุฬาลัมพาไทย (Artemisia vulgaris L.) และโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia absinthium L.) ซึ่งเหล่านี้มักจะใช้เป็นยาและสมุนไพร  หรือที่มักใช้เป็นอาหาร ได้แก่ เฮียเฮียะ (Artemisia argyi), จิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) 




ข้อมูลด้านการคลินิค



  • สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในชิงเฮาหรือโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia annua L.) คือ สารอาร์เทมิซินิน (Artemisinin) หรือ ชิงเฮาซู (Quinghousu) สามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อพลาสโมเดียมในระยะที่อยู่ในเม็ดเลือดได้ ซึ่งให้ผลดีในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียทั้งชนิดฟัลซิปารัม (Plasmodium falciparum) และชนิดไวแวกซ์ (Plasomdium vivax) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ดื้อยา ซึ่งในปัจจุบันสารชนิดนี้และอนุพันธุ์กึ่งเคมีสังเคราะห์ถูกนำมาใช้เป็นยาแก้ไข้จับสั่นในหลายประเทศรวมทั้งจีน และเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก (WHO) และเป็นเครื่องยาที่ได้รับการรับรองในการแพทย์แผนจีน นอกจากนี้ยังพบว่าเครื่องยาชนิดนี้ยังมีสารกลุ่มฟลาวานอยด์หลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมฤทธิ์ต้านเชื้อไข้จับสั่นกับสารอาร์เทมิซินิน เช่น casticin, cirsilineol, chysoplenol-D, chrysoplenetin เป็นต้น  นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง 
  • น้ำมันระเหยของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia annua L.) ยังได้รับการพิจารณาว่าเป็นยารักษาที่เป็นไปได้สำหรับ COVID-19[24] ณ เดือนมิถุนายน 2563 นักวิจัยพบว่าสารสกัดจากส่วนใบโกฐจุฬาลัมพา (A. annua) สามารถฆ่าเชื้อ COVID-19 ได้ในหลอดทดลอง อาจมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อโควิดทั้งสายพันธุ์แอฟริกาและอังกฤษ  ในเดือนเมษายน 2563 ประเทศมาดากัสการ์เริ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มสมุนไพรโกฐจุฬาลัมพาในชื่อ Covid-Organics 
  • น้ำมันระเหยของโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia Pallens W.)  / Davana นอกจากจะมีคุณสมบัติเป็นยาลดไข้ นักวิจัยยังพบว่าสารสกัดเมทานอลของดาวาน่าลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญในหนูที่เป็นเบาหวานที่เลี้ยงด้วยน้ำตาลกลูโคสและหนูที่เป็นเบาหวานที่เกิดจากอัลรอกแซน เป็นพืชได้รับการคัดเลือกสำหรับฤทธิ์ต้านจุลชีพ ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยาต้านเบาหวาน
  • นอกจากนี้น้ำมัน (Artemisia Pallens W.)  / Davana ยังมีฤทธิ์ต้านพยาธิ ยาลดไข้ และยาชูกำลัง และยังถือว่าเป็นอาหารสัตว์ที่ดีอีกด้วย น้ำมันมีคุณสมบัติต้านอาการกระสับกระส่าย และสารกระตุ้น ยาต้านโนซิเซ็ปทีฟ และการรักษาบาดแผลที่ให้ผลอย่างรวดเร็ว
  • สารสำคัญที่พบในโกฐจุฬาลัมพา (ชนิด Artemisia vulgaris L.) ในส่วนของใบจะพบน้ำมันระเหย 0.02% ซึ่งประกอบด้วยสาร Cineole, a-thujone, camphor, Phellandrene, Potassium Chloride, Vitamin A,  Vitamin D ส่วนทั้งต้นนั้นจะมีน้ำมันระเหยอยู่ประมาณ 0.2-0.33%
  • น้ำมันระเหยของโกฐจุฬาลัมพา (ชนิด Artemisia vulgaris L.) สามารถกระตุ้นผิวหนังได้เล็กน้อย โดยทำให้ผิวหนังมีความรู้สึกร้อนหรือมีอาการแดง หากนำมารับประทาน 2-5 กรัม พบว่าสามารถช่วยย่อยอาหารและเจริญอาหารได้ แต่หากรับประทานมากเกินอัตราส่วน จะทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบอย่างเฉียบพลัน นอกจากนี้น้ำมันระเหยยังสามารถรักษาโรคหอบหืด อาการไอ ขับเสมหะ ใช้แก้หลอดลมอักเสบในหนูทดลองได้ด้วย อีกทั้งยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้หลายชนิด เช่น เชื้อของโรคคอตีบ เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดบิด เป็นต้น

  


ข้อมูลด้านความปลอดภัย


* แม้ว่าโกฐจุฬาลัมพาโดยทั่วไปจะพบผลข้างเคียงได้บ้าง แต่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับการใช้งานระยะสั้น (2-4 สัปดาห์)  แต่หากใช้นานเกินไปใน ระยะยาว (4 สัปดาห์ขึ้นไป) และ/หรือรับประทานในปริมาณที่สูงกว่าที่แนะนำอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่น นอนไม่หลับ อาเจียน คลื่นไส้ เวียนศีรษะบ้านหมุน ประสาทหลอน กระสับกระส่าย และชัก  สำหรับการรักษาไข้มาลาเลียควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบสถานะของการติดเชื้อมาลาเรียได้ สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานเว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ 


* คุณสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยได้อย่างปลอดภัยโดยการสูดดมหรือทาเฉพาะที่ ให้หยด 3-4 หยดลงในดิฟฟิวเซอร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก


* สำหรับการใช้เฉพาะที่ ให้ผสมให้เข้ากันกับน้ำมันตัวพาที่คุณเลือกทดสอบส่วนผสมบนผิวอื่นๆ ก่อนเช่น ปลายแขน ก่อนทาในบริเวณที่บอบบางเช่นใบหน้า หากหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วคุณพบว่ามีรอยแดงหรือระคายเคือง ให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน 


* ไม่แนะนำการรรับประทานน้ำมันหอมระเหย 100% เนื่องจากมีความเข้มข้นสูงมาก หากรับประทานอาจเกิดพิษ จึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์และผู้เชียวชาญอย่างใกล้ชิด  


เอกสารอ้างอิง


1. https://en.wikipedia.org/wiki/Artemisia_vulgaris 

2. https://medthai.com/โกฐจุฬาลัมพา 

3. https://th.wikipedia.org/wiki/โกฐจุฬาลัมพา_(สกุล) 

4. https://www.wpi.edu/news/early-research-finds-extracts-sweet-wormwood-plant-can-inhibit-covid-19-virus 

5. https://www.verywellhealth.com/wormwood-5082001 

6. http://medicinalplants.us/artemisia-pallens
7. https://ijpsr.com/bft-article/phytochemical-and-pharmacological-properties-of-artemisia-pallens/
8. https://www.essentialnaturaloils.com/davana-essential-oil
9. https://www.itslife.in/gardening/perennials/davana-artemisia-pallens  

SaNi - Pure Essential Oil 100%

**** Artemisia Annua L. *****

INCI Name:  Artemisia annua L. Oil

ส่วนที่ใช้ : ใบ / leaves

ชื่อสามัญ :  Sweet annie, Sweet sagewort, Sweet wormwood, Wormweed,  Quinghousu 

การสกัด : Steam Distilling / กลั่นด้วยไอน้ำ

ประเทศ : จีน / China



**** Artemisia Pallens W. *****

INCI Name:   Artemisia Pallens Flower/Leaf/Stem Oil

ส่วนที่ใช้ : ใบ / leaves

ชื่อสามัญ :  Davana, Dhavanam

การสกัด : Steam Distilling / กลั่นด้วยไอน้ำ

ประเทศ : อินเดีย / India



**** Artemisia Vulgaris L. *****

INCI Name:   Artemisia Vulgaris (Mugwort) Oil

ส่วนที่ใช้ : ใบ / leaves

ชื่อสามัญ :  Mugwort, Common wormwood, Felon Herb, Riverside wormwood

การสกัด : Steam Distilling / กลั่นด้วยไอน้ำ

ประเทศ : อียิปท์ / Eqypt



สั่งซื้อ / ติดต่อ 

>> [Shopee]  , [Lazada]

>>  Line @SaNi , FB-sanilab.th, IG-sanilab.th  

i-essence

ลิขสิทธิ์ ©2023 SaNi Lab (Thailand) - สงวนสิทธิ์ทุกประการ

All nature for Life - business for better society

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด

ยอมรับ